top of page

จัดการ "ความเครียด" ด้วย Jigsaw ที่ถูกต้อง

  • Writer: 🌻
    🌻
  • May 1, 2023
  • 1 min read
การต่อ Jigsaw ปัญหาและวิธีแก้ไขที่ถูกต้องจะทำให้ภาพในชีวิตเราถูกต้องและชัดเจน แต่หากเราต่อมันผิด มันก็จะทำให้ภาพชีวิตเราบิดเบี้ยว เบลอ และไม่ชัดเจน

“ความเครียด” เป็นสิ่งที่เราเจอเป็นประจำ ไม่ว่าจะเครียดจากเหตุการณ์แย่ๆ เช่น ตกงาน เลิกกับแฟน สูญเสียคนที่รัก เป็นต้น หรือแม้แต่ความเครียดจากเรื่องดีๆ เช่น แต่งงาน มีลูก ซื้อบ้าน เป็นต้น ปัญหาบางอย่างแก้ไขได้ แต่บางอย่างก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา Coping strategies เป็นกลไกหรือวิธีการที่มนุษย์ใช้เมื่อเผชิญกับปัญหาหรือความเครียดในชีวิตประจำวัน การเข้าใจความเครียดที่เจอและเลือกวิธีแก้ไขปัญหาแต่ละอย่างในชีวิตก็เหมือนกับการเลือก Jigsaw ที่ถูกต้องให้กับชีวิต ถ้าต่อผิด ชีวิตก็อาจเปลี่ยนได้ เรามาแบ่งประเภท Jigsaw ที่เราใช้จัดการปัญหาและความเครียดกันดูนะคะ


1. Solution-focused coping strategies คือวิธีที่โฟกัสและเผชิญหน้ากับปัญหาและหาวิธีแก้ไขเป็นหลัก เช่น ตัดสินใจและทำอะไรบางอย่างเพื่อแก้ปัญหา หาข้อมูลหรือความช่วยเหลือเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เป็นต้น วิธีนี้เป็นประโยชน์มากเมื่อปัญหาหรือสาเหตุของความเครียดนั้นแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ (และควรรีบทำก่อนที่มันจะสายเกินแก้) เช่น ความเครียดจากการสอบ ก็ควรแก้ปัญหาด้วยการวางแผนอ่านหนังสือและสร้างวินัยในการอ่านอย่างสม่ำเสมอ Solution-focused จึงจำเป็นต้องอาศัยวิสัยทัศน์และความฉลาดในการวางแผนและเลือกสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ ซึ่งปัญหาและความเครียดส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวันของเราเป็นปัญหาที่มักแก้ได้และมีทางออก แต่ส่วนใหญ่ มนุษย์มักขาดการฝึกฝนในการพัฒนาทักษะการวางแผน การจัดการเวลา การยับยั้งชั่งใจ การประเมินผลที่ตามมาของสถานการณ์ หรือการฝึกสติปัญญาในการเลือกทำสิ่งที่ควรทำ จึงมักทำให้ปัญหาที่ควรจะแก้ได้ กลับกลายเป็น “สายเกินแก้” และบางครั้งต้องทำให้ไปใช้รูปแบบการแก้ปัญหาที่ 2 (แบบไฟลท์บังคับ)


2. Emotion-focused coping strategies คือวิธีที่โฟกัสกับการจัดการอารมณ์และความรู้สึก เช่น ฝึกสมาธิ (meditation) เขียน journal อ่านข้อความดีๆเพิ่มพลังบวกให้ตัวเอง (reframing thoughts) คิดบวก เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการจัดการกับอารมณ์และสุขภาพจิต โดยเฉพาะเมื่อเราอยู่ในปัญหาที่เราไม่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เช่น เมื่อสูญเสียคนที่รัก หรือความผิดพลาดที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขมันได้ เพราะฉะนั้น การยอมรับ รู้เท่าทันและทำความเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราก้าวผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากไปได้ด้วยสุขภาพจิตที่แข็งแรง และไม่พัฒนาไปเป็นความเครียดเรื้อรัง (chronic stress) วิธีนี้ต้องอาศัยจิตใจที่เข้มแข็งในการอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับตัวเอง และความเชื่อในกระบวนการการเยียวยาและเวลา

หลายครั้งเราต่อ Jigsaw วิธีรับมือกับปัญหาในชีวิตผิด จนบางครั้งทำให้เราวนลูปกับผลลัพธ์ชีวิตแบบเดิมๆ เจอแต่กับรูปแบบปัญหาเดิมๆ เพราะ Jigsaw (วิธีคิด) ที่ผิด ดังนั้น เราจึงควรฝึกการแยกแยะลักษณะของปัญหาให้เก่งว่าอะไรแก้ได้และควรรีบแก้ ปัญหาอะไรที่อยู่นอกเหนือการควบคุมเราตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และต่อ Jigsaw ให้ถูกด้วยการเลือกวิธีการจัดการให้เหมาะสม เช่น ถ้าปัญหาเราคือ อยากประสบความสำเร็จ สอบได้คะแนนดีๆ ก็ควรวางแผนและโฟกัสที่ที่มาของปัญหาและสิ่งที่จะทำเพื่อแก้ปัญหานั้นได้เป็นหลัก (Solution-focused) ไม่ใช่มัวแต่คิดบวก แต่ไม่ทำอะไรเลย หรือปัญหาแฟนนอกใจ มันเป็นปัญหาที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา เราไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยใครให้ซื่อสัตย์กับเราได้ เราไม่สามารถลบความทรงจำที่เจ็บปวดออกจากสมองได้ เพราะฉะนั้น เราควรเลือก Jigsaw ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจและความรู้สึกที่บอบช้ำของเราให้กลับมาแข็งแรง (Emotion-focused) ทำความเข้าใจความคิด ความรู้สึกตัวเองและปลดปล่อยมันออกมา แทนที่จะหาทางทำให้เขากลับมา ไม่งั้นเราก็จะเหมือนวิ่งอยู่ในเขาวงกตของปัญหาเดิมๆ เพราะเราเลือกวิธีแก้ไขผิดตั้งแต่แรก

การต่อ Jigsaw ปัญหาและวิธีแก้ไขที่ถูกต้องจะทำให้ภาพในชีวิตเราถูกต้องและชัดเจน แต่หากเราต่อมันผิด มันก็จะทำให้ภาพชีวิตเราบิดเบี้ยว เบลอ และไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้น เรียนรู้ที่จะสร้างทักษะนี้ในชีวิต ถามคำถามแบบนี้กับตัวเองบ่อยๆ เมื่อเจอปัญหาว่า “ปัญหานี้เราแก้ได้ไหม?” แล้ว “เราควรใช้วิธี Solution-focused หรือ Emotion-focused ดี?” และสร้างนิสัยในการทำสิ่งเหล่านี้จนเคยชิน แล้วเราจะเห็นผลลัพธ์ชีวิตที่เปลี่ยนแปลง .... เรามาต่อ Jigsaw ชีวิตให้ถูกกันนะคะ:)


รัก, แอม🌻

Comments


bottom of page