"Heal" อย่างไร เมื่อ "อกหัก"

เมื่อเราอยู่ในความสัมพันธ์หรือแชร์ชีวิตร่วมกับใครบางคน พื้นที่ในชีวิตเรา ตัวตน ความเชื่อ ความคิด การมองโลกบางอย่างของเราจะถูกหลอมรวมกันกับตัวตนของอีกคน จากพื้นที่ของ “ฉัน” และพื้นที่ของ “เธอ” กลายเป็นพื้นที่ของ “เรา” เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความเป็นเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเรา

แต่เมื่อเราตัดสินใจออกจากความสัมพันธ์นั้น มันคือการแยกพื้นที่ที่เคยรวมกันออกจากกัน เมื่อเราเพิ่งออกจากความสัมพันธ์ใหม่ๆ มันเลยจะมีภาวะงงๆ สับสนกับชีวิต ช่วงเวลาที่เคยให้เขามันกลายเป็นว่างเปล่า บทสนทนาที่เคยคุยกับเขากลายเป็นไม่รู้จะคุยกับใคร อนาคตที่เคยวางเขาอยู่ในนั้นกลายเป็นไม่มีเขาอยู่ในนั้นแล้ว เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เขาได้เอาตัวตนและความเป็นเราบางอย่างออกไปจากชีวิต ตอนที่เขาเดินออกไปด้วย เหมือนเวลาที่เราผสมกาแฟกับนมลงในแก้วเดียวกันแล้ว มันจะแยกออกจากกันไม่ได้อีก แต่จากกาแฟที่เคยเต็มแก้ว วันนี้มันเหลือเพียงครึ่งแก้วเท่านั้น

สิ่งที่เราต้องทำในช่วงเวลานี้คือ พยายามกลับมา connect กับตัวเองอีกครั้งหนึ่ง ทำความเข้าใจกับตัวเอง กลับมามองตัวตน ความเชื่อ ความคิดของตัวเองใหม่ว่าเราเป็นใคร ต้องการอะไร ตัวตนจริงๆของเรา (ที่ไม่มีเขา) คือใคร แล้วเติมมันให้เต็ม อาจจะลองเลือกทำ 5 วิธีนี้ดูก็ได้ค่ะ

1.ซื่อสัตย์กับตัวเอง

เริ่มทบทวนและถามตัวเองว่าที่ผ่านมา อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงได้ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาถูกขับเคลื่อนด้วย trauma บางอย่างไหม เช่น การที่เรามีแต่แฟนที่ชอบทำร้ายร่างกาย อาจจะมาจากจิตใต้สำนึก (self-sabotage) บางอย่าง หรือปัญหาเรื่องความเชื่อใจ (trust issue) อาจจะมาจากความผูกพัน (attachment) กับพ่อแม่ในวัยเด็ก

2.อย่าใช้วิธีเติมช่องว่าง

เมื่อเรา "อกหัก" ใหม่ๆ มนุษย์มักจะรีบหาอะไรมาเติมช่องว่างที่ขาดหายไป เช่น sex เดทคนใหม่ เที่ยว ดื่มเหล้าโดยที่เราไม่ได้คิดว่าสิ่งที่รีบเอามาเติมเป็นของเสียหรือเปล่า การทำสิ่งเหล่านี้จะยิ่งทำให้เราออกห่าง (disconnect) กับตัวตนเราไปเรื่อยๆ และมันจะวนลูปอยู่แบบนี้ไม่รู้จบ สิ่งที่เราควรทำคือ ตระหนักถึง "ช่องว่าง" ที่เกิดขึ้น ใช้เวลาอยู่กับมัน ทำความเข้าใจมัน เมื่อเราเห็นมันชัดเจน เราก็จะสามารถรักษามันได้

3.ปลดปล่อยความรู้สึกออกมา

ในกระบวนการ heal ตัวเอง เราต้อง connect กับตัวเอง และรู้ทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอารมณ์ที่เราพยายามจะกดทับเอาไว้ จากนั้นก็ปล่อยมันออกมา ไม่ว่าจะด้วยการ ร้องไห้ พูด ระบาย หรือเขียนออกมา มันเหมือนกระบวนการ แปลง "อารมณ์" ให้กลายเป็น "เหตุผล" (ส่วนตัวแอมมักจะเขียน daily journal เป็นประจำ)

4.อยู่ให้ห่างจากต้นเหตุของบาดแผล

ถ้าเรารู้ว่าการติดต่อกับ "แฟนเก่า" จะทำให้กระบวนการรักษาเราช้าลง หรือเป็นปัจจัยที่ทำให้เราอ่อนแอลง เราก็ควรเว้นระยะ "เพื่อตัวเอง" ก่อน

5.พบนักบำบัด

การพบ "นักบำบัด" ที่เชี่ยวชาญในการรักษาบาดแผลทางใจจะช่วยทำให้เราเห็นตัวเองมากขึ้น ค้นพบ traumas ของตัวเองที่มีบทบาทในความสัมพันธ์เราตั้งแต่วัยเด็ก และจะช่วยให้เราไปถึงกระบวนการรักษาที่แท้จริง

เราทุกคนล้วนมี traumas และนิสัยบางอย่างที่เป็นจุดอ่อนในความสัมพันธ์กันทั้งนั้น ใช้เวลาในการค้นหา (explore) สิ่งเหล่านี้ที่เป็นอุปสรรคที่ทำให้เราไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดี (healthy relationship) ได้ แอมเชื่อว่าทุกคนมี potential ในการทำความเข้าใจ และรักษาตัวเอง เพราะแอมก็เป็นคนหนึ่งที่ explore traumas ตัวเอง และพบนักบำบัดเพื่อทำความเข้าใจตัวเองเหมือนกัน และวันที่เรารู้ทันสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกที่คอยขับเคลื่อนความคิดและพฤติกรรมบางอย่างที่คอยทำให้ความสัมพันธ์เราสะดุดแล้ว เราจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดี (healthy relationship) ได้ และเราจะเห็นชีวิตเราที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอนค่ะ

รัก, แอม🌻